อาการมีก้อนที่ คอ ร่วมกับกลืนลำบากเป็นสัญญาณที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนอาจคิดว่าเป็นเพียงก้อนเล็ก ๆ ที่ไม่อันตราย หรือเกิดจากการอักเสบธรรมดา แต่แท้จริงแล้วภาวะนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคสำคัญที่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง การรู้เท่าทันสาเหตุ อาการ และแนวทางการดูแลจะช่วยให้ผู้ป่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและรักษาได้ทันท่วงที
ทำความเข้าใจก้อนที่คอและอาการกลืนลำบาก

ก้อนที่คอหมายถึงการมีก้อนหรือเนื้อเยื่อผิดปกติที่สามารถคลำได้หรือมองเห็นได้บริเวณลำคอ อาจอยู่ด้านหน้า ด้านข้าง หรือบริเวณใกล้หลอดอาหารและกล่องเสียง เมื่อก้อนมีขนาดใหญ่ขึ้นหรืออยู่ในตำแหน่งที่กดทับหลอดอาหาร มักทำให้ผู้ป่วยมีอาการกลืนลำบาก กลืนติด เจ็บ หรือรู้สึกเหมือนมีสิ่งกีดขวางในลำคอ
กลืนลำบาก (Dysphagia) เองอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งความผิดปกติของกล้ามเนื้อประสาท หรือสิ่งกดทับจากภายนอก เช่น ก้อนที่คอ ดังนั้นเมื่อสองอาการนี้เกิดขึ้นพร้อมกัน ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคสำคัญจึงสูงขึ้น
สาเหตุที่พบบ่อยของก้อนที่คอร่วมกับกลืนลำบาก
- ก้อนหรือซีสต์ต่อมไทรอยด์
- ต่อมไทรอยด์ที่คออาจเกิดซีสต์หรือก้อนโตขึ้นจนกดหลอดอาหาร
- ผู้ป่วยอาจรู้สึกกลืนติด หายใจลำบาก หรือเสียงแหบ
- ก้อนน้ำเหลืองโต (Lymphadenopathy)
- เกิดจากการติดเชื้อ เช่น คออักเสบ วัณโรคต่อมน้ำเหลือง หรือโรคมะเร็ง
- ลักษณะก้อนอาจแข็ง โตเร็ว หรือเจ็บเมื่อกด
- เนื้องอกในคอหรือหลอดอาหาร
- อาจเป็นทั้งเนื้องอกไม่ร้ายแรงหรือมะเร็ง
- อาการมักรวมถึงกลืนลำบาก น้ำหนักลด เสียงเปลี่ยน
- มะเร็งกล่องเสียงหรือมะเร็งคอหอย
- พบได้ในผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลานาน
- อาการเด่นคือเสียงแหบเรื้อรัง เจ็บ คอ และกลืนลำบาก
- ซีสต์หรือก้อนกำเนิด (Congenital cysts)
- เช่น Thyroglossal duct cyst ที่พบในเด็กหรือวัยรุ่น
- มักอยู่กลางคอและเคลื่อนขึ้นลงเวลายกกลืน
- ความผิดปกติอื่น ๆ
- ฝีหนองในลำคอ
- ต่อมน้ำลายโตหรือมีนิ่วในต่อมน้ำลาย
- โรคกรดไหลย้อนที่ทำให้คอบวมเรื้อรังจนกลืนลำบาก
อาการร่วมที่ควรระวัง
หากมีอาการต่อไปนี้ร่วมกับก้อนที่คอและกลืนลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
- ก้อนโตเร็วหรือแข็งมาก
- กลืนอาหารยากทั้งของแข็งและของเหลว
- ไอหรือสำลักบ่อย
- เสียงแหบหรือเปลี่ยนไปอย่างถาวร
- หายใจลำบาก หรือมีเสียงหายใจดัง
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เจ็บคอเรื้อรังหรือมีเลือดปนในเสมหะ
การวินิจฉัย
แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและอาจใช้การตรวจเพิ่มเติมดังนี้
- การซักประวัติและตรวจร่างกาย
- สอบถามอาการ ระยะเวลา และพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
- คลำก้อนที่คอเพื่อดูขนาด ความแข็ง และการเคลื่อนไหว
- การส่องกล้อง (Endoscopy)
- ใช้ตรวจหลอดอาหารและกล่องเสียงว่ามีสิ่งกดทับหรือเนื้องอกหรือไม่
- อัลตราซาวด์คอ (Ultrasound)
- ใช้ตรวจต่อมไทรอยด์และต่อมน้ำเหลือง
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) หรือ MRI
- เพื่อดูโครงสร้างและตำแหน่งของก้อนอย่างละเอียด
- การตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy)
- หากสงสัยว่าเป็นมะเร็ง แพทย์จะเจาะหรือตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
วิธีรักษา
แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงของก้อนและอาการกลืนลำบาก
- รักษาด้วยยา
- ยาปฏิชีวนะ หากเกิดจากการติดเชื้อ
- ยาลดกรดหรือยาควบคุมกรด หากมีภาวะกรดไหลย้อน
- การผ่าตัดหรือหัตถการ
- ผ่าตัดเอาก้อนหรือซีสต์ออกหากกดทับหรือเสี่ยงเป็นมะเร็ง
- ขยายหลอดอาหารหากตีบแคบ
- การฉายรังสีหรือเคมีบำบัด
- ใช้ในกรณีมะเร็งที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ทั้งหมด
- การปรับพฤติกรรมและโภชนาการ
- รับประทานอาหารอ่อน เนื้อนุ่ม หรือเหลวข้นเพื่อลดความเสี่ยงการสำลัก
- หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด แอลกอฮอล์ และบุหรี่
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
หากละเลยอาการก้อนที่คอและกลืนลำบาก อาจเกิดภาวะดังนี้
- ปอดอักเสบจากการสำลัก (Aspiration pneumonia)
- ขาดสารอาหารและน้ำเนื่องจากกลืนอาหารไม่ได้
- โรคมะเร็งลุกลามหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที
- คุณภาพชีวิตลดลง ไม่สามารถกินอาหารได้ตามปกติ
การป้องกันและดูแลตนเอง
- หมั่นสังเกตความผิดปกติของลำคอ หากมีก้อนหรือกลืนลำบากควรรีบตรวจ
- รักษาสุขอนามัยช่องปากและคอเพื่อลดการติดเชื้อ
- เลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- กินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารมันจัดหรือรสเผ็ดที่กระตุ้นกรดไหลย้อน
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงโรคต่อมไทรอยด์หรือมะเร็งคอหอย
เมื่อใดควรไปพบแพทย์ทันที
- มีก้อนที่คอที่โตเร็ว แข็ง หรือเจ็บ
- กลืนลำบากเรื้อรังนานเกิน 2 สัปดาห์
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- หายใจลำบากหรือมีเสียงหายใจผิดปกติ
- ไอเป็นเลือดหรือเสมหะปนเลือด
Checklist: สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับก้อนที่คอและอาการกลืนลำบาก
อาการที่ต้องสังเกต
- มีก้อนที่คอที่ไม่ยุบหายภายใน 2–3 สัปดาห์
- กลืนอาหารหรือน้ำลำบาก รู้สึกเหมือนติดคอ
- เจ็บคอหรือเจ็บเวลากลืน
- เสียงแหบเรื้อรัง
- หายใจลำบากหรือมีเสียงหายใจผิดปกติ
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
สาเหตุที่พบบ่อย
- ก้อนซีสต์ ไทรอยด์โต ต่อมน้ำเหลืองโต
- การติดเชื้อในลำคอหรือหลอดอาหาร
- กรดไหลย้อนเรื้อรังที่ทำให้เยื่อบุอักเสบ
- เนื้องอกทั้งชนิดไม่ร้ายแรงและร้ายแรง เช่น มะเร็งกล่องเสียงหรือมะเร็งต่อมไทรอยด์
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- การอุดกั้นทางเดินหายใจ
- การขาดสารอาหารเนื่องจากกลืนอาหารไม่ได้
- การแพร่กระจายของเนื้องอกในกรณีที่เป็นมะเร็ง
- คุณภาพชีวิตลดลงจากอาการเจ็บปวดและไม่สะดวกในการกินอาหาร
แนวทางการดูแลและการรักษา
- เข้ารับการตรวจร่างกายและอัลตราซาวด์คอเพื่อหาสาเหตุ
- ตรวจเลือดและฮอร์โมนไทรอยด์หากสงสัยเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
- กล้องส่องตรวจหลอดอาหารและกล่องเสียงในกรณีที่มีอาการกลืนลำบากเรื้อรัง
- การรักษาอาจใช้ยา ปรับพฤติกรรมการกิน หรือผ่าตัดเอาก้อนออก ขึ้นอยู่กับสาเหตุ
- ในกรณีที่เป็นมะเร็ง ต้องอาศัยการรักษาเฉพาะทาง เช่น การผ่าตัด รังสีรักษา หรือเคมีบำบัด
วิธีป้องกันและลดความเสี่ยง
- รักษาสุขอนามัยในช่องปากและลำคอ
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด ของทอด และอาหารที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อน
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคต่อมไทรอยด์หรือมะเร็งคอ
- สังเกตอาการผิดปกติของร่างกายและไม่ละเลยสัญญาณเตือน
เมื่อใดควรรีบพบแพทย์
- มีก้อนคอที่โตเร็วหรือแข็ง
- กลืนอาหารหรือน้ำแทบไม่ได้
- หายใจลำบาก มีเสียงหายใจแปลก
- ไอเป็นเลือดหรือเสมหะมีเลือดปน
- น้ำหนักลดและอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ
ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัยก้อนที่คอและอาการกลืนลำบาก
เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง แพทย์มักจะดำเนินการตรวจตามลำดับดังนี้:
- การซักประวัติและตรวจร่างกาย
- สอบถามอาการ เช่น ระยะเวลาที่พบก้อน ความเร็วในการโตของก้อน อาการเจ็บขณะกลืน หรือน้ำหนักลด
- ตรวจคลำก้อนที่คอเพื่อดูขนาด ความแข็ง และการเคลื่อนที่
- การตรวจเลือด
- ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ (TSH, FT4)
- ตรวจหาภาวะการติดเชื้อหรือการอักเสบ
- การตรวจภาพทางการแพทย์ (Imaging)
- อัลตราซาวด์คอ: ใช้เพื่อดูลักษณะก้อนว่าของแข็งหรือเป็นถุงน้ำ
- เอกซเรย์คอหรือ CT Scan/MRI: ในกรณีที่สงสัยว่าก้อนลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง
- การส่องกล้อง (Endoscopy/Laryngoscopy)
- ใช้กล้องเล็กส่องเข้าไปในลำคอหรือหลอดอาหาร เพื่อตรวจดูว่ามีการอุดกั้นหรือรอยโรคที่ทำให้กลืนลำบากหรือไม่
- การเจาะตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy/FNAC)
- หากก้อนมีลักษณะน่าสงสัย แพทย์จะทำการเจาะดูดเซลล์หรือตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจทางพยาธิวิทยา
- ขั้นตอนนี้สำคัญมากในการวินิจฉัยมะเร็ง
- การวินิจฉัยและวางแผนรักษา
- หากเป็นก้อนที่ไม่ร้ายแรง เช่น ซีสต์หรือต่อมไทรอยด์โตธรรมดา อาจใช้เพียงการติดตามหรือผ่าตัดเล็ก
- หากพบว่าเป็นมะเร็ง ต้องเข้าสู่แนวทางรักษาที่เฉพาะเจาะจง เช่น การผ่าตัด รังสีรักษา หรือเคมีบำบัด
ข้อคิดสำคัญ
การมีก้อนที่คอร่วมกับอาการกลืนลำบาก ไม่ควรละเลยหรือรอให้หายเอง เพราะหลายครั้งเป็นสัญญาณของโรคที่ต้องได้รับการรักษาเร็ว การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกช่วยเพิ่มโอกาสรักษาหาย ลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง