เมื่อนึกถึงนอร์เวย์ หลายคนอาจจินตนาการถึงภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ชายฝั่ง ฟยอร์ดที่ลึกและงดงาม หรือแสงเหนือที่พลิ้วไหวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่มีอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของประเทศนี้อย่างลึกซึ้ง นั่นคือการแล่นเรือไปกับ Hurtigruten เส้นทางการเดินเรือชายฝั่งที่มีประวัติยาวนานกว่า 130 ปี และได้รับสมญาว่าเป็น “การเดินทางชายฝั่งที่งดงามที่สุดในโลก”
ประวัติศาสตร์แห่ง Hurtigruten

ชื่อ Hurtigruten แปลตรงตัวจากภาษานอร์เวย์ว่า “เส้นทางด่วนชายฝั่ง” กำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1893 โดยกัปตัน Richard With ผู้ริเริ่มแนวคิดการเชื่อมต่อเมืองชายฝั่งทางตอนเหนือกับตอนใต้ของนอร์เวย์ผ่านการเดินเรืออย่างสม่ำเสมอ ในยุคแรก Hurtigruten เป็นเส้นเลือดสำคัญของชุมชนชายฝั่ง ช่วยขนส่งผู้โดยสาร ไปรษณีย์ และสินค้า
แม้เวลาจะผ่านไปกว่าหนึ่งศตวรรษ แต่ Hurtigruten ยังคงทำหน้าที่ดั้งเดิมอยู่ควบคู่กับการเป็นเส้นทางท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ เรือทุกลำยังคงจอดเทียบท่าตามเมืองเล็กๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงและความมีชีวิตชีวาของชุมชน
เส้นทางการเดินเรือ
เส้นทางดั้งเดิมของ Hurtigruten เริ่มจาก Bergen เมืองท่าเก่าแก่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ลัดเลาะขึ้นเหนือผ่านฟยอร์ด ป่าเขา และหมู่บ้านชายฝั่งที่สวยงาม ไปจนถึง Kirkenes เมืองชายแดนใกล้รัสเซีย รวมระยะทางกว่า 2,400 กิโลเมตร
ตลอดการเดินทาง เรือจะจอดแวะที่เมืองและหมู่บ้านกว่า 30 แห่ง ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสทั้งความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่น ผู้โดยสารสามารถเลือกเดินทางทั้งเส้นทางเต็ม 12 วัน หรือเลือกเฉพาะบางช่วง เช่น Bergen–Tromsø หรือ Tromsø–Kirkenes ขึ้นอยู่กับเวลาและความสนใจ
ประสบการณ์บนเรือ Hurtigruten
การอยู่บนเรือ Hurtigruten แตกต่างจากการล่องเรือสำราญทั่วไป บนเรือไม่ได้เน้นความหรูหราโอ่อ่า แต่เน้นความสะดวกสบาย อบอุ่น และเป็นกันเอง ผู้โดยสารสามารถเลือกห้องพักหลายระดับ ตั้งแต่ห้องมาตรฐานไปจนถึงห้องสวีทที่มองเห็นวิวทะเลกว้าง
บนเรือมีห้องอาหารที่ให้บริการอาหารสดใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ปลาแซลมอน ปลาคอด เนื้อแกะ และหอยทะเล มีเลานจ์พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดให้ผู้โดยสารนั่งชมวิวได้อย่างเต็มตา และดาดฟ้าที่กว้างขวางเหมาะสำหรับการถ่ายภาพหรือชมแสงเหนือในฤดูหนาว
นอกจากนี้ Hurtigruten ยังมีการบรรยายและกิจกรรมเชิงความรู้ เช่น การเล่าเรื่องประวัติศาสตร์เมืองท่าที่เรือแวะ การอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ หรือการจัดทริปเสริม (excursion) เช่น การเดินป่า การพายเรือคายัค และการไปเยี่ยมชมฟาร์มท้องถิ่น
การสัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
หนึ่งในเสน่ห์หลักของการเดินทางกับ Hurtigruten คือการได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติของนอร์เวย์ในมุมมองที่แตกต่างจากบนบก ฟยอร์ดที่ยิ่งใหญ่ เช่น Geirangerfjord และ Trollfjord จะเผยให้เห็นความอลังการเมื่อมองจากทะเล
ในฤดูหนาว ผู้โดยสารมีโอกาสสูงที่จะได้ชม แสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่พลิ้วไหวบนท้องฟ้าเหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ขณะที่ฤดูร้อนจะมอบประสบการณ์ พระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) ที่ไม่ลับขอบฟ้า สร้างบรรยากาศเหนือจริงที่ยากจะลืม
เมืองและหมู่บ้านที่น่าจดจำ
การเดินทางกับ Hurtigruten ไม่ได้เป็นเพียงการชมวิวจากดาดฟ้า แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารได้สัมผัสเมืองและหมู่บ้านมากมาย เช่น
- Bergen: เมืองเริ่มต้นเส้นทางที่มีบ้านไม้ Bryggen อันเก่าแก่และตลาดปลาอันคึกคัก
- Ålesund: เมืองสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโวที่งดงาม พร้อมมุมสูงจาก Aksla Hill
- Trondheim: เมืองมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมหาวิหาร Nidaros
- Tromsø: เมืองหลวงแห่งอาร์กติก จุดชมแสงเหนือยอดนิยม
- Kirkenes: ปลายทางสุดขอบประเทศ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมทริปสุนัขลากเลื่อนหรือเยี่ยมชมโรงแรมน้ำแข็ง
แต่ละเมืองมีเรื่องราวเฉพาะตัว ทำให้ทุกการแวะจอดเป็นการค้นพบใหม่ที่ไม่ซ้ำกัน
วัฒนธรรมและผู้คน
Hurtigruten ยังเป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรม ผู้โดยสารไม่เพียงพบกับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ยังได้ใกล้ชิดกับชาวบ้านท้องถิ่นที่ใช้บริการเรือเพื่อการเดินทางประจำวัน บางครั้งคุณอาจได้พบกับชาวประมงที่ขึ้นเรือเพื่อนำสินค้าทะเลไปขาย หรือครอบครัวท้องถิ่นที่ใช้เรือเป็นเส้นทางหลักในการเยี่ยมญาติ
การมีส่วนร่วมเช่นนี้ทำให้การเดินทางมีความเป็นจริงและอบอุ่น แตกต่างจากการล่องเรือสำราญเชิงพาณิชย์
ความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่การท่องเที่ยวต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม Hurtigruten ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านความยั่งยืน กองเรือสมัยใหม่ของพวกเขามีการใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการงดเว้นการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและเน้นวัตถุดิบจากท้องถิ่น
ด้วยแนวคิดเหล่านี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำร้ายธรรมชาติ แต่เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาเส้นทางชายฝั่งให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
ควรเดินทางเมื่อไร
เสน่ห์ของ Hurtigruten คือสามารถเดินทางได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน
- ฤดูหนาว (ธันวาคม–กุมภาพันธ์): โอกาสสูงในการชมแสงเหนือ บรรยากาศเงียบสงบ
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–พฤษภาคม): ช่วงที่ฟยอร์ดเริ่มละลาย หิมะบนภูเขายังสวยงามตัดกับสีเขียวของหุบเขา
- ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม): พระอาทิตย์เที่ยงคืน และกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน): สีสันใบไม้เปลี่ยนสีตัดกับภูเขาและทะเล เป็นภาพที่งดงามไม่แพ้ฤดูใด
เคล็ดลับสำหรับผู้เดินทาง
- จองล่วงหน้า: โดยเฉพาะฤดูร้อนที่เป็นช่วงยอดนิยม
- เลือกเส้นทางตามเวลา: หากมีเวลาน้อย การเดินทางครึ่งเส้นทางก็เป็นทางเลือกที่ดี
- เตรียมเสื้อผ้าให้ครบ: อากาศสามารถเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อผ่านเส้นอาร์กติก
- เข้าร่วมกิจกรรมเสริม: เช่น การเดินป่า การขี่สุนัขลากเลื่อน หรือการพายเรือ เพื่อเพิ่มสีสันในการเดินทาง
- กล้องถ่ายรูปหรือกล้องโทรทรรศน์: เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเก็บภาพวิวที่หาดูได้ยาก
ประสบการณ์ที่มากกว่าการท่องเที่ยว
การเดินทางกับ Hurtigruten ไม่ได้เป็นเพียงการชมวิว แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวนอร์เวย์และความผูกพันกับทะเล สำหรับชาวบ้านตามเมืองชายฝั่ง เรือ Hurtigruten คือเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชุมชน พวกเขาใช้มันเพื่อขนส่งสินค้า เดินทางไปโรงพยาบาล หรือเยี่ยมญาติ
เมื่อผู้โดยสารต่างชาติได้ขึ้นเรือ จึงเสมือนได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับวิถีชีวิตจริง ไม่ใช่เพียงการท่องเที่ยวแบบผิวเผิน ความรู้สึกนี้ทำให้ Hurtigruten แตกต่างจากเรือสำราญหรูหราที่เน้นความบันเทิง
เสน่ห์ของความช้าและการใช้เวลา
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ Hurtigruten กลับมอบประสบการณ์ที่ตรงกันข้าม การแล่นเรือที่ค่อยๆ เคลื่อนผ่านฟยอร์ดและภูเขา ทำให้ผู้โดยสารได้สัมผัสเสน่ห์ของ “การเดินทางอย่างช้าๆ” ที่ไม่เพียงเปลี่ยนวิธีมองวิว แต่ยังเปลี่ยนวิธีมองชีวิต
หลายคนใช้เวลาบนเรือในการอ่านหนังสือ เขียนบันทึก พูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง หรือเพียงนั่งเงียบๆ มองทะเลและภูเขาที่ไกลสุดสายตา การเดินทางเช่นนี้มอบความสงบและการพักผ่อนทางใจที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน
เรื่องราวจากผู้โดยสาร
มีผู้โดยสารหลายคนที่บอกว่าการเดินทางกับ Hurtigruten คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิต ตัวอย่างเช่น คู่รักสูงวัยจากเยอรมนีที่ตั้งใจขึ้นเรือเพื่อฉลองครบรอบแต่งงาน พวกเขาเล่าว่าช่วงเวลาที่ได้ชมแสงเหนือจากดาดฟ้าเรือคือ “ของขวัญจากธรรมชาติ” ที่ไม่อาจประเมินค่าได้
หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่ตั้งใจเดินทางในฤดูร้อน พวกเขาประทับใจกับพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่ทำให้สามารถถ่ายภาพทิวทัศน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เรื่องราวเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า Hurtigruten ไม่ได้เป็นเพียงการเดินทาง แต่คือการสร้างความทรงจำร่วมกันที่คงอยู่ไปตลอดชีวิต
ความคุ้มค่าที่ไม่อาจวัดได้ด้วยราคา
บางคนอาจมองว่าการเดินทางกับ Hurtigruten มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการท่องเที่ยวแบบอื่น แต่หากพิจารณาถึงสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นวิวธรรมชาติที่ไม่มีที่ใดเปรียบได้ ความใกล้ชิดกับผู้คนท้องถิ่น ความสะดวกสบายบนเรือ และประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร จะพบว่าความคุ้มค่ามิได้วัดด้วยตัวเงินเพียงอย่างเดียว
คู่มือการเดินทางกับ Hurtigruten
สำหรับผู้ที่สนใจจะสัมผัสประสบการณ์การแล่นเรือกับ Hurtigruten การเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเดินทางนี้ไม่เหมือนกับทริปท่องเที่ยวทั่วไป นี่คือแนวทางที่จะช่วยให้คุณวางแผนได้อย่างมั่นใจ
1. เลือกเส้นทางที่เหมาะสม
Hurtigruten มีเส้นทางหลักคือการเดินทางเต็มสายจาก Bergen ไปยัง Kirkenes และกลับ รวมระยะเวลา 11–12 วัน แต่ก็มีตัวเลือกสั้นกว่านี้ เช่น ครึ่งเส้นทางใต้ (Kirkenes–Bergen) หรือครึ่งเส้นทางเหนือ (Bergen–Kirkenes) ที่ใช้เวลาประมาณ 6–7 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาจำกัด
2. ช่วงเวลาที่ควรเดินทาง
- ฤดูหนาว (ธันวาคม–มีนาคม): โอกาสสูงในการชมแสงเหนือ บรรยากาศเงียบสงบและโรแมนติก
- ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน–พฤษภาคม): ภูเขายังมีหิมะ แต่ฟยอร์ดเริ่มมีสีเขียวสดใส
- ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม): พระอาทิตย์เที่ยงคืน แสงธรรมชาติยาวนาน และกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน): สีสันของใบไม้เปลี่ยน และราคาตั๋วโดยสารมักจะถูกกว่า
3. การเลือกห้องพัก
บนเรือ Hurtigruten มีห้องหลายประเภท ตั้งแต่ห้องมาตรฐานที่เรียบง่ายจนถึงห้องสวีทหรูพร้อมระเบียง หากคุณเป็นคนที่ใช้เวลามากบนดาดฟ้าเพื่อชมวิว ห้องแบบมาตรฐานก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย ห้องสวีทคือทางเลือกที่เหมาะสม
4. สิ่งที่ควรเตรียมไป
- เสื้อผ้าที่อบอุ่นและกันลม แม้ในฤดูร้อน อากาศบนดาดฟ้าก็อาจหนาวจัด
- กล้องถ่ายรูปหรือสมาร์ทโฟนคุณภาพดี เพื่อเก็บภาพทิวทัศน์และแสงเหนือ
- รองเท้าสำหรับเดินทาง หากคุณตั้งใจเข้าร่วมกิจกรรมบนฝั่ง
- ยาประจำตัวและของใช้ส่วนตัว เพราะร้านค้าบนเรือมีของใช้จำกัด
5. งบประมาณโดยประมาณ
ราคาของการเดินทางเต็มเส้นทางอาจอยู่ในระดับหลายพันยูโรต่อคน ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและประเภทห้อง อย่างไรก็ตาม หากเลือกเส้นทางสั้นหรือจองล่วงหน้า ราคาจะคุ้มค่ามากขึ้น นอกจากนี้ยังควรเผื่องบประมาณสำหรับกิจกรรมเสริมบนฝั่ง เช่น ทัวร์หมู่บ้านชาวประมง หรือการขับสโนว์โมบิลในฤดูหนาว
6. เคล็ดลับเล็กน้อย
- จองล่วงหน้าอย่างน้อย 6–12 เดือน โดยเฉพาะในฤดูร้อนและฤดูหนาวที่เป็นช่วงไฮซีซัน
- พกกล้องส่องทางไกลเพื่อดูสัตว์ป่า เช่น นกทะเลหรือปลาวาฬ
- หากคุณมีข้อจำกัดด้านอาหาร ควรแจ้งทางเรือล่วงหน้า เพราะ Hurtigruten มีบริการอาหารที่ปรับตามความต้องการส่วนบุคคลได้
บทส่งท้าย
การเดินทางกับ Hurtigruten คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างการผจญภัยและการพักผ่อน มันไม่เพียงพาคุณข้ามจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ยังพาคุณย้อนกลับไปสัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของนอร์เวย์ ขณะที่ยังมอบความสะดวกสบายและบรรยากาศอบอุ่นของการเดินทางร่วมกัน
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางที่ใฝ่หาประสบการณ์แปลกใหม่ นักถ่ายภาพที่ตามหามุมมองสวยงาม หรือผู้ที่ต้องการใช้เวลาสงบเงียบท่ามกลางธรรมชาติ Hurtigruten จะมอบสิ่งที่คุณตามหาได้เสมอ การเดินทางนี้จึงไม่ใช่เพียงครั้งหนึ่งในชีวิต แต่คือความทรงจำที่คงอยู่ตลอดไป